อากาศร้อนๆ กับการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรือน

         การผลิตไก่ไข่ในปัจจุบัน มีระบบการเลี้ยงแบบหนาแน่นบนกรงตับ ที่มีพื้นที่ในการเลี้ยงไก่ต่อตัวค่อนข้างแออัด ทำให้ไก่ไข่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ ประกอบกับสภาพอากาศในฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้ไก่เกิดสภาวะความเครียดได้ อุณหภูมิร่างกายของไก่ไข่จะเพิ่มสูงขึ้น มีอาการหอบเพิ่มขึ้น และมีการกินน้ำมากขึ้น สมดุลของสารต่างๆ ในกระแสเลือดจะเสียไปและส่งผลกระทบให้การกินได้ลดลง และมีผลผลิตไข่ที่ลดลงตามมา ซ้ำร้ายไก่อาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่นการจิกกันและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการป่วยและตายเพิ่มขึ้น

         การจัดการด้านโรงเรือน ปัจจัยบันนิยมเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิด (Evaporative Cooling System) เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงจากสภาพอากาศภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยง เช่น อุณหภูมิหรือความชื้น การระบายอากาศภายในโรงเรือนก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เกษตรกรควรหมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพัดลมและอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้มีความเหมาะสม ความเร็วลมที่พัดผ่านตัวไก่ได้อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นได้

         นอกจากการจัดการด้านโรงเรือนแล้วการจัดการด้านอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการลดความเครียดที่เกิดจากความร้อนให้ไก่ได้เช่นกัน โดยอาจต้องมีการปรับสมดุลของสารอาหารที่ไก่ได้รับ เช่น กรดอะมิโนบางชนิด แคลเซียม โซเดียมและฟอสฟอรัส เพื่อให้ไก่ได้รับสารอาหารเพียงพอ รวมถึงพลังงานที่มาจากอาหารประเภทไขมันส่วนหนึ่งแทนแป้งและโปรตีนจะช่วยลดการสร้างความร้อนภายในร่างกายที่เกิดขึ้นจากการย่อยอาหารได้ เนื่องจากอาหารประเภทไขมันให้พลังงานสูงกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้การจัดการอาหารร่วมกับการเสริมบีเทน (Betaine) ลงในอาหารไก่ไข่ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากบีนเทนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีส่วนร่วมในการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย และสังเคราะห์โปรตีนเพื่อนำไปใช้ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลของน้ำภายในร่ายกายและลดการสูญเสียน้ำจากอากาศร้อน ซึ่งช่วยในการลดความเครียดของไก่ลงได้ มีงานวิจัยชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการเสริมบีเทนลงในอาหารไก่ไข่ว่า สามารถทดแทนกรดอะมิโน methionine ในอาหารและให้ผลดีต่อประสิทธิภาพการผลิต อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด ลดระดับคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเป็นไขมันในเลือดอีกด้วย