
วิตามิน A ช่วยบำรุงภูมิคุ้มกันในเยื่อบุลำไส้ และยังสามารถบำรุงลำไส้ให้แข็งแรงได้ เนื่องจากเซลล์ภูมิคุ้มกันที่เยื่อบุลำไส้ และเซลล์ลำไส้มีแขน (Receptor) ที่ชื่อว่า “Retinoic acid receptor; RAR” เมื่อวิตามิน A เข้ามาจับกับแขนเหล่านี้จะกระต้นให้เซลล์ลำไส้เล็กมีการพัฒนา รวมถึงช่วยเพิ่มการแสดงออกของยีนสเต็มเซลล์ Lgr5+ ในทางเดินอาหารได้ (Wang et al.,2020) นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการผลิตเมือกที่คอยปกป้องลำไส้ (Lauridsen et al.,2021) มีการศึกษาเพิ่มเติมในปี 2020 พบว่าการเสริมวิตามิน A ในระดีบ 13,500 IU/kg อาหารในลูกหมูหย่านมจะช่วยเพิ่มระดับของ IgA และ IgM ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญในหมูหย่านม (Hu et al.,2020)
มีการศึกษาเพิ่มเติมในปี 2020 พบว่าการเสริมวิตามิน A ในระดีบ 13,500 IU/kg อาหารในลูกหมูหย่านมจะช่วยเพิ่มระดับของ IgA และ IgM ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญในหมูหย่านม (Hu et al.,2020)
วิตามิน D จะเข้ามาจับกับแขน (Receptor) เซลล์ลำไส้ ที่ชื่อว่า “Vitamin D receptor; VDR” วิตามิน D ช่วยลดความเสียหายและการตายของเซลล์ในช่วงที่มีการอักเสบ (He et al.,2018) และสนับสนุนการสร้างเปปไทด์ ที่เกี่ยวข้องกับการต้านอักเสบ (Anti-inflammatory peptides) เช่น Beta-defensin (Lu et al., 2018) นอกจานี้ยังเกี่ยวข้องกับการลดอนุมูลอิสระอีกด้วย
วิตามิน B6 เป็น Co-factor ในกระบวนสร้างเมือก (mucin) ซึ่งเมือกนี้จะทำหน้าที่ปกป้องลำไส้ไม่ให้เชื่อก่อโทษสัมผัสกับลำไส้โดยตรง
“ตรงนี้ทำเป็นภาพภายในลำไส้มีเมือกใสๆปกป้อง และแบคทีเรียก็เกาะกับผิวลำไส้ไม่ได้”
วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดี โดยการเลือกใช้ในสถานะการณ์ที่มีความเครียด จากสภาพแวดล้อม โรคทางเดินอาหาร หรือช่วงที่มีความเสียงเรื่องสารพิษจากเชื้อรา เป็นช่วงที่อาจจะแนะนำให้เสริม เนื่องงานทดลองพบว่าการเสริม วิตามิน C ในลูกหมูหย่านมที่อาหารปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อรานั้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในตับได้ (Shi et al.,2017)
วิตามิน E ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะแก่การใช้คู่กับ วิตามิน ซี และ ซิลีเนียม
#Sanimals #ซานิมอลส์
#หมู #วิตามินดีต่อหมู #ภูมิคุ้มกันหมู #วิตามินหมู #วิตามินดีต่อภูมิคุ้มกันหมู