สภาพอากาศของประเทศไทยตอนนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลตามปกติเหมือนแต่ก่อนแล้ว จะสังเกตเห็นบางทีฝนตกหนักทั้งๆ ที่อากาศร้อนจัด หรือบางวันแดดร้อนจัดทั้งๆ ที่เมื่อวานฝนพึ่งจะตกลงมา การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศดังกล่าวส่งผลกระทบให้สุกรเกิดความเครียด และทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ ตามมาด้วยการติดเชื้อโรคและป่วยได้ในเวลาต่อมา
เรื่องหลักๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อฟาร์มสุกรโดยตรง
1.Productivity ผลผลิตที่ได้จะลดลงเนื่องจาก
• Heat stress ความเครียดจากอาการร้อน จะทำให้สุกรมีเปอร์เซ็นต์การผสมติดที่ต่ำลง บางพื้นที่แห้งแล้งและขาดแคลนน้ำในการใช้สอยภายในฟาร์ม ทั้งในแง่ของการใช้ทำความสะอาดคอกสุกรหรือโรงเรือน และมีไว้ให้สุกรกิน
• อากาศที่ร้อนมากๆ จะทำให้สุกรไม่อยากกินอาหาร ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและการผลิตต่ำลง เพิ่มโอกาสการเกิดโรค จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และอากาศบริเวณรอบๆ ไหลเวียนไม่ดี สุกรจะป่วยและติดโรคได้ง่าย
2.Cost สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลต่อการเพิ่มต้นทุนการผลิต
• อย่างการจัดการสภาพของโรงเรือน อาจจะต้องลงทุนเพิ่มในเรื่องการถ่ายเทอากาศ ควบคุมกลิ่นจากของเสีย ติดตั้งเครื่องทำความร้อน หรือเพิ่มพัดลมระบายอากาศในโรงเรือนเพื่อรองรับต่อสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ราคาต้นทุนค่าอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยววัตถุดิบต่างๆ ที่จะนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์
• เมื่อสุกรเกิดโรค ต้นทุนค่ายารักษาโรคหรือการควบคุมโรคระบาดจะเป็นผลกระทบที่ตามมา และหากควบคุมได้ไม่ดีพอ ก็จะเกิดการสูญเสียต่อผลผลิตที่ฟาร์มควรจะได้รับอีกด้วย
• เกษตรกรควรมีการปรับตัวโดยเน้นการจัดการคุณภาพของฟาร์มให้มีความเหมาะสม เช่นการจัดการเรื่องสภาพอากาศภายในโรงเรือนให้มีการถ่ายเทที่ดี มีอุณหภูมิที่เหมาะสม การมีแหล่งสำรองกักเก็บน้ำก็สำคัญเช่นกัน เพราะถ้าสุกรขาดน้ำก็จะส่งผลให้ป่วยได้ เริ่มต้นจากการสร้างเกราะป้องกันผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ก่อน ย่อมดีกว่าปล่อยให้สุกรป่วยหรือผลผลิตที่ควรจะได้ลดลง และต้องเพิ่มปริมาณต้นทุนเพื่อรักษาหรือแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นภายในฟาร์ม
นอกจากนี้ยัง ลำดับท้องของแม่สุกร ความหนาของไขมันสันหลัง ความเครียด อุณหภูมิ และโรคต่างๆ ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างนมน้ำเหลืองในแม่สุกรด้วยเช่นกัน